ติ่ง หน่อย – หัวหน้าทีมภาคสนามแม่สอด

I give energy and I show people their value. 

ฉันส่งต่อพลังบวกและทำให้คนให้คุณค่าของตัวเอง 

วิธีที่คนคนหนึ่งรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทั้งในช่วงที่ยากลำบาก ช่วงที่น่าเบื่อหน่าย และช่วงที่ดี เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นเนื้อแท้ของคนๆ นั้นได้เป็นอย่างดี

สำหรับตินตินนั้น เรียกได้ว่ามีคุณภาพสูง

ตินตินผสมผสานความมั่นใจและความอ่อนน้อมถ่อมตนไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เหมาะเจาะกับงานที่เธอรัก คุณสมบัติเหล่านี้หยั่งรากในเรื่องราวของเธอ และกลายเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ งาน และชีวิต

ตินตินเติบโตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เธอจะพูดห้อยท้ายเสมอว่า “เป็นคนที่เข้มแข็งมาก” แม่เป็นแบบอย่างของการทำงานหนัก แม่ทำทุกสิ่งที่ดูจะเป็นงานสำหรับผู้ชาย อย่างการแบกกระบอกไม้ไผ่หนักๆ ข้ามเขา แต่ถึงไม่ว่าจะทำงานหนักขนาดไหน ก็ยังมีช่วงเวลาที่พวกเขามีเงินพอแค่ซื้อหน่อไม้ป่ากินแทนข้าว ตินตินต้องหยุดการเรียนไว้เพียงชั้นป.4 เธอเริ่มช่วยงานแม่ตั้งแต่นั้นมา แม้ในใจจะคอยฝันว่าจะได้ใส่ชุดนักเรียนสะอาดๆ ไปโรงเรียนเหมือนเด็กวัยเดียวกันคนอื่นๆ   

เมื่ออายุย่างเข้า 16 ปี ตินตินและแม่ของเธอหนีจากเมียนมาร์มายังประเทศไทย ด้วยความหวังว่าจะได้งานทำในไร่นาและมีชีวิตที่ดีขึ้น สองปีต่อมาแม่ของเธอตัดสินใจกลับเมียนมาร์ แต่ตินตินเลือกที่จะทำงานต่อในประเทศไทย หลังจากรับจ๊อบหลายต่อหลายจ๊อบไปพร้อมๆ กันพร้อมกับส่งเงินกลับไปให้แม่ใช้ที่พม่าเสมอ ตินตินก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ ต่อมาเขากลายมาเป็นสามีของเธอ หลังจากได้พูดคุยกันหลายครั้งที่ร้านอาหาร เธอเห็นว่าชายคนนี้เป็นคนดีและมีจิตใจดี ตินตินแต่งงานเมื่ออายุ 21 สามีของเธออายุ 36 แม้บางครั้งชีวิตแต่งงานจะมีปัญหา แต่ตินตินยืนหยัดที่จะรักษาครอบครัวไว้ให้อยู่ด้วยกัน เธอรู้ดีว่าการโตมาโดยไม่มีพ่อเป็นอย่างไร และเธอไม่ต้องการให้ลูกของเธอต้องเจอประสบการณ์เดียวกัน เมื่อมองย้อนดูวัยเด็ก ตินตินบอกว่า “ฉันไม่อยากให้เด็กคนไหนรู้สึกเหมือนฉันตอนนั้นเลย ไม่มั่นใจ รู้สึกไม่ได้รับความรักความอบอุ่น กลัวการถูกลงโทษ” เธอไม่เพียงแสดงความรักต่อลูกชายของเธอทุกๆ วัน แต่ยังทำเช่นเดียวกันต่อเด็กๆ ทุกคนที่เธอมีโอกาสได้เจอผ่านงานที่เธอทำ เธอแสดงความรักด้วยการส่งพลังบวก การรับฟังอย่างตั้งใจ และไม่ยึดติดกับกรอบความคิดที่สร้างข้อจำกัด ความอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานของเธอทำให้เด็กๆ รักที่จะอยู่ใกล้เธอ

 “อย่ายอมแพ้ที่จะสู้เพื่อความฝันของคุณ พยายามมองทุกสิ่งในด้านบวก วางใจคนอื่น อย่างเปรียบเทียบเรื่องราวของคุณกับใคร คุณไม่โดดเดี่ยวในโลกนี้”

ตินตินทำงานในองค์กรส่งเสริมสันติภาพระหว่างประเทศร่วมกับสามีของเธออยู่หลายปี เริ่มแรกเธอรู้สึกอาย กลัว และเต็มด้วยความสงสารตัวเอง แต่ช่วงเดียวกันนี้เองที่ทำให้ตินได้เรียนภาษาอังกฤษและรับการอบรมเรื่องต่างๆ เช่น ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการทีม การพูดต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในตัวเองของเธอมากขึ้นอย่างมาก เธอพบว่าเธอมีทักษะการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม และความอดทนบวกกับนิสัยที่เข้ากับคนง่ายทำให้เธอสามารถเข้าหาและช่วยเหลือคนในสถานการณ์วิกฤตได้เป็นอย่างดี

ตินตินคือเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยของคนแรกขององค์กรเดอะคาริสโปรเจ็ค ตั้งแต่ชั้นเรียนพ่อแม่และการเยี่ยมบ้านแม่ลูกอ่อนจนถึงตอนนี้เธอได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการภาคสนามของมูลนิธิร่มไม้ เธอดูแลโครงการหลักทั้ง 3 โครงการในโมเดลช่วยเหลือครอบครัวที่เผชิญวิกฤตอย่างครอบคลุม

 “อย่ายอมแพ้ที่จะสู้เพื่อความฝันของคุณ พยายามมองทุกสิ่งในด้านบวก วางใจคนอื่น อย่างเปรียบเทียบเรื่องราวของคุณกับใคร คุณไม่โดดเดี่ยวในโลกนี้”

นี่คือคำคมที่ชี้นำทางให้เธอในการเดินก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ว่าในอนาคตของเธอหรือมูลนิธิร่มไม้  

แปล ดัดแปลง และเรียบเรียงจากต้นฉบับโดย Haley George ผู้ที่สละเวลาของเธอเดินทางมาประเทศไทยเพื่อพบกับเรา ทำความรู้จักเรา ทีมงานของเธอ และเก็บภาพการทำงานให้เรา