ฉันทำธุรกิจได้ดีขึ้น เรื่องราวจากมะมิ้นเมี๊ยะตู่

“ตอนฉันยังเด็ก ครอบครัวฉันลำบากมาก ต้องดิ้นรนให้พอมีอยู่มีกิน” มะมิ้นเมี๊ยะตู่ เล่าให้เราฟัง

“พ่อแม่ไม่มีเงินส่งฉันเรียน ฉันเลยได้เรียนถึงแค่ป.2 แล้วก็ต้องลาออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานที่นู่นที่นี่ พวกเราย้ายมาประเทศไทยในปี 2550 เพราะหางานที่พม่ายากมาก ที่ประเทศไทยมีโอกาสมากกว่า ทำมาหากินง่ายกว่า ”

“หลังจากย้ายมา ฉันก็ทำงานทั้งในโรงงานและและในไร่เป็นแรงงานรายวัน ฉันหาเงินได้แค่พอหาเลี้ยงครอบครัวได้ แต่ไม่เคยเหลือเงินเก็บไว้เผื่ออนาคตเลย”

“อยู่มา ฉันก็เลยตัดสินใจลองทำธุรกิจของตัวเอง มาเปิดร้านขายผัก ฉันเห็นว่าที่ตลาดสด ผักเป็นของที่ขายดีที่สุด เมื่อ 4 ปีที่แล้วฉันเลยลงทุนไป 2,000 บาท เพื่อเริ่มทำธุรกิจขายผัก ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ทำมาเรื่อยๆ ฉันซื้อผักจากไร่ของเพื่อนบ้านแล้วก็มาขายที่ตลาด บางวันลูกค้าเยอะฉันจะได้กำไรประมาณ 400 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับลูกค้ามากน้อยแค่ไหน บางวันก็ท้าทายมาก ถ้าหากว่าลูกค้าน้อย ผักก็เน่าเสียหมด วันนั้นก็ถือว่าฉันขาดทุนไปเลย”

“ตอนนี้ฉันเป็นสมาชิกของกลุ่มออมทรัพย์ชื่อ ฟาร์ม (โครงการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อครอบครัวในชุมชน) ก่อนที่จะมีทีมมาชี้แนะเรื่องการออม ฉันไม่มีเงินออมเลย แต่เรื่องบริหารเงินทั่วไปฉันก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้จากธุรกิจของฉัน ฉันก็เริ่มมีออมเงินแล้วเล็กน้อย หลังจากได้เงินออมและปันผลรอบแรก ฉันใช้เงินนั้นซื้อทองชิ้นเล็ก ๆ ไว้ถ้าเกิดมีเรื่องต้องใช้เงินฉุกเฉิน ฉันก็เอาไปขายได้แม้มีค่าใช้จ่ายค่าแผงตลาด 2,500 บาทต่อเดือน ฉันก็ยังมีเงินพอให้ครอบครัวใช้และมีเงินเก็บอีกต่างหาก ฉันยังส่งลูกชายวัย 7 ขวบไปโรงเรียนและดูแลทั้งครอบครัวด้วยเงินที่ได้จากธุรกิจนี้ บางครั้งเวลาชุมชนมีกิจกรรมอะไร ฉันก็ลงขันช่วยได้ด้วยเงินสด”

“แม้ว่าฉันจะทำธุรกิจมาพักหนึ่งแล้วแต่การอบรมวงจรธุรกิจเบื้องต้นของมูลนิธิร่มไม้ก็ช่วยให้ฉันได้มีความเข้าใจการทำธุรกิจมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ช่วยให้ทำธุรกิจได้ดีกว่าเดิม ฉันได้เรียนรู้บริหารธุรกิจของตัวเอง รู้ว่าจะจัดการกับความท้าทายต่างๆ ยังไงให้ธุรกิจยังไปต่อได้ และได้รู้จักวิธีการใช้เงินอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยค่ะ”

“ถ้าฉันทำธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จ ฉันก็ฝันไว้ว่า วันหนึ่งจะได้กลับประเทศของตัวเอง ทำธุรกิจนี้ แล้วก็ขยายให้ใหญ่ขึ้น”


การสนับสนุนของคุณสำหรับ “โครงการเสริมศักยภาพทางการเงินให้ครอบครัว” เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้ครอบครัวที่เผชิญวิกฤตและให้ทักษะที่ทำให้พวกเขาพึ่งพาตัวเองได้คุณช่วยให้ผู้หญิงคนนี้ได้มอบสิ่งที่เธอไม่ได้รับในวัยเด็กให้กับลูก นั่นคือ โอกาสทางการศึกษาและการออมเงินเพื่ออนาคตของครอบครัว คุณมอบความหวังที่เธอต้องการเพื่อกล้าฝันถึงอนาคตที่ดีกว่า และมอบสิ่งที่จำเป็นในการทำความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง