แนนเติบโตมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างมาก พ่อแม่ของเธอต่างจบถึงชั้นม. 6 ในประเทศพม่า ก่อนจะย้ายมาตั้งถิ่นฐานทำธุรกิจที่ประเทศไทย ทว่าการศึกษาที่เรียกร้องให้เธอต้องอยู่ประจำที่กับผู้ใหญ่สักคนที่ดูแลได้ สวนทางกับการงานทำของพ่อแม่ที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดทำให้แนนอยู่ในความดูแลของคุณยายตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่ไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กับพ่อแม่นัก
“แนนรู้สึกคิดถึงแม่ตลอดเวลาที่อยู่กับยายจนกระทั่งตอนนี้ ไม่อยากอยู่ห่างกัน ทุกครั้งที่แม่มาเยี่ยมตอนนั้น แนนจะบอกแม่เสมอว่าคิดถึง อยากอยู่กับแม่”
ความอยากอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ทำให้แนนลำบากใจเมื่อต้องไปเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่ต้องอยู่หอพัก แต่เธอก็อดทนจนผ่านไปได้ แนนจบการศึกษาระดับอนุปริญญาที่สถาบันตูเมคีในสาขาการพัฒนาชุมชนและภาษา (LCD) ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
แม้จะต้องแข็งใจฝากลูกสาววัยแบเบาะคนเดียวของเธอไว้กับแม่เพื่อไปเรียนต่อ แต่แนนตั้งมั่นเสมอว่าเธอจะกลับมาทำหน้าที่ดูแลลูกให้ได้เติบโตอย่างใกล้ชิดกับเธอ เมื่อใกล้เรียนจบเธอจึงมองหางานที่เอื้อให้เธอ สามี และลูกสาวได้อยู่ร่วมกัน
แนนเริ่มต้นการเดินทางกับเราด้วยการเป็นนักศึกษาฝึกงาน เมื่อเห็นว่างานของเราเกี่ยวกับลูก ครอบครัวอบอุ่น เธอจึงสนใจทำงานที่นี่ด้วย แนนมีหัวใจอยากที่จะร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม เธอจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ “เราอยากจะได้เรียนรู้ และแชร์ให้คนอื่นฟังด้วย เราไม่อยากให้คนอื่นเป็นแบบเรา” แนนบอก
แนนกลายมาเป็นผู้บุกเบิกการแปลหลักสูตรโรงเรียนพ่อแม่ของเราเป็นภาษาไทยคนแรก โดยเริ่มต้นจากวิชา “การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก”
“มีหลายอย่างมากที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อย่างการเล่นเนี่ย ตอนเราโตมาที่บ้านจะไม่ให้เด็กเล่น เราต้องอยู่แบบมีกฎระเบียบตลอด จะใช้กระดาษก็ไม่ได้ เขาจะบอกว่ามันสกปรก มันทำให้รก คิดว่าอาจจะเป็นอย่างนี้ด้วยเราเลยไม่ชอบอ่านหนังสือ พอเราได้เรียนรู้ เราก็เลยอยากจะนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาใช้กับลูกของเรา”
ปัจจุบัน แนนได้กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่มไม้อย่างเต็มตัว เธอดูแลให้แน่ใจว่าผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของมูลนิธิร่มไม้จะได้รับสาระที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ ไปกับการแปลหลักสูตรโรงเรียนพ่อแม่ต่อไป รวมไปถึงการรายงานกิจกรรมขององค์กรต่อหน่วยงานภาครัฐด้วย
วันนี้เธอภูมิใจในคนที่เธอเป็น ความเข้มแข็งที่เธอมีผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆ แนนยังมีความตั้งใจที่จะให้ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวที่จะคุยกับได้ทุกเรื่อง เป็นครอบครัวที่จะใช้วิธีบังคับกัน และเป็นครอบครัวที่พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน
เราภูมิใจเช่นกันที่มีแนนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความเข้มแข็งให้กับครอบครัวรุ่นใหม่