รับลูกฉันไปเลี้ยงไหม?

สองสามเดือนก่อน ทีมของเรามีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนใหม่คนหนึ่ง เธอตั้งท้องได้ 6 เดือนแล้ว และยังไม่เคยฝากครรภ์หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์เลยแม้สักครั้งเดียว แม้ว่าในอำเภอแม่สอดจะมีคลินิกรักษาฟรีที่มีมาตรฐานระดับสากล แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้จัก หรือรู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือสำหรับบางคน แม้จะรู้ ก็ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอจะเดินทางไป

พวกเราจัดแจงนัดหมายกับเธอว่าจะพาเธอไปคลินิก แนะนำให้เธอทานวิตามินเสริมสำหรับสตรีมีครรภ์ และข้อแนะนำอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการดูแลครรภ์อายุ 6 เดือน อารอนประธานมูลนิธิร่มไม้อาสาใช้เวลาว่างที่หาได้ยากของเขาขับรถพาทีมและเพื่อนใหม่ของเราคนนี้ไปตรวจ  เมื่อเขาไปถึงจุดนัดรับ เราพบว่ามีเพื่อนๆ ของเธอที่กำลังตั้งครรภ์รอติดรถไปตรวจพร้อมกันถึง 5 คน

“ฉันไม่อยากเก็บลูกคนนี้ไว้เลย” ผู้หญิงคนหนึ่งบอกกับทุกคนระหว่างเดินทาง สามีของเธอเป็นคนไม่ดี “เขาไม่ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว เอาแต่ดื่มตลอดเวลา เรามีลูกด้วยกัน 2 คนแล้ว ฉันคงไม่เก็บเด็กคนนี้ไว้เพราะฉันจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงยังไงไหว” 

อารอนร่วมบทสนาด้วย เมื่อเขาเล่าว่าเขาเป็นพ่อของลูกถึง 6 คน ผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นทันทีว่า “คุณอยากได้อีกสักคนไหม?” 

เราได้ยินคำถามนี้บ่อยๆ จากแม่ที่อ่อนแรง จากแม่ที่ตั้งครรภ์ท้องแรก… ท้องที่ 3… ท้องที่ 5… และรู้สึกหลังชนฝากับการเลี้ยงดูลูกและครอบครัว แม้ว่าวัฒนธรรมของเธอจะเป็นวัฒนธรรมที่รักเด็กและมักอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่สำหรับแม่ชาวพม่าที่ต้องข้ามพรมแดนมาหาอนาคตไกลบ้าน การตั้งครรภ์มักนำไปสู่วิกฤต

(นี่คือสภาพที่อยู่อาศัยของครอบครัวที่ยากจนและไม่ได้รับความรู้ที่จำเป็น ลองจินตนาการว่าหากคุณกิน นอน อาศัยอยู่ในบ้านศาลาไม้ไผ่เล็กๆ ใกล้แหล่งน้ำที่เป็นที่เพาะพันธุ์ยุงอย่างดี รอบๆ เต็มไปด้วยขยะ บนที่ดินที่มีผู้มีฐานะให้เช่า หรือนายจ้างแบ่งที่ให้พัก คุณแทบจะไม่มีอาหารครบห้าหมู่กิน หรือให้ลูกกินอิ่ม แล้วก็เพิ่งพบว่าคุณกำลังจะมีเพิ่มอีกคน)

                                                 สภาพบ้าน ทั้งครอบครัวอยู่ร่วมกันในห้องห้องเดียวซึ่งไม่มีแม้ประตูปิด

 

พวกเขาใช้เวลาทั้งวันที่คลินิก รอให้ทุกคนได้พบหมอ ตรวจเลือด และฝากครรภ์

ไม่นานหลังจากนั้น เราเริ่มจัดอบรมสุขภาพผู้หญิงและการดูแลครรภ์ในหมู่บ้านนี้ 

                                                 นักเรียนล้นห้อง จนต้องมีเปิดอีกโซนด้านนอก

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ได้ให้กำเนิดลูกคนที่ 3 ของเธอ เธออุ้มลูกไว้ด้วยความภาคภูมิใจและบอกกับเราว่า เธอจะเลี้ยงลูกคนนี้เอง 

แม้ว่าอนาคตไม่ง่าย แต่เดี๋ยวนี้เธอมีความหวัง

ทางเดียวที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ของแม่ที่เผชิญภาวะเช่นนี้ คือการให้ทรัพยากรที่จำเป็นต่อพวกเธอ ให้ความรู้ ทักษะ และงานกับสามี ให้ความช่วยเหลือ ให้กำลังใจ และที่สำคัญที่สุดช่วยให้พวกเขามีความหวัง

เรารู้ว่าวิธีที่เราทำได้ผล และเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความอยู่รอดของครอบครัวเด็กและเด็กที่เราสามารถเข้าถึงและช่วยได้ ยังมีครอบครัวอีกนับพันที่เผชิญสถานการณ์คล้ายๆ กันที่เรายังไม่มีทุนและเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลือได้

ทุกๆ วัน มีครอบครัวที่กำลังเข้าใกล้ภาวะเปราะบางและเด็กๆ ตกอยู่ในความเสี่ยงในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจ

การสนับสนุนของคุณเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนงานของเราไปข้างหน้า ให้เราได้เยียวยาครอบครัว เสริมสร้างครอบครัว และร่วมปกป้องครอบครัวให้ได้อยู่ร่วมกัน

ร่วมบริจาควันนี้